[one shot - T-ARA]..Drunk..[Eunso]
Let's drink tonight,girls.
ผู้เข้าชมรวม
922
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคแปลงที่หยิบเอาเรื่องที่เคยเขียนในคู่โซนยอมาดัดแปลงใหม่
ลองอ่านดูนะคะ ใครอยู่ SSFC น่าจะคุ้น :')
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
[one shot]..Drunk..[EunTae]
Let's drink tonight,girls.
กลางดึกคืนหนึ่ง ในห้องพักขนาดพอเหมาะมีร่างของ ปาร์ค โซยอน นักศึกษาปี 2 ของมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงโซลยืนทอดอารมณ์อยู่ริหน้าต่าง วันนี้เจ้าตัวเพิ่งเสร็จจากการสอบอันยาวนานและหฤโหด และดูท่าว่าเธอเองจะไม่ค่อยพอใจกับการสอบครั้งนี้เท่าไหร่นัก สังเกตได้จากสีหน้าบอกบุญไม่รับของของเจ้าตัว ประกอบกับเสียงถอนหายใจเฮือกๆ ดังก้องไปทั่วห้อง
โซยอนผุดลุกผุดนั่งอยู่บนเตียงด้วยไม่รู้จะทำอะไรให้หายจากอาการเบื่อหน่ายที่กำลังประสบอยู่ แล้วสองเท้าเรียวเล็กก็พาร่างบอบบางก้าวออกไปยังระเบียงห้องเพียงเพื่อหวังว่าบรรยากาศของท้องฟ้าในยามค่ำคืนข้างนอกนั่นจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง
...ดวงตาคู่หวานกวาดมองไปรอบตัวก็เห็นเพียงแสงไฟที่สาดส่องออกมาจากตึกฝั่งตรงข้าม ท้องฟ้าก็มีเพียงความมืดมิดไร้แสงสว่างของดวงดาว ไม่แปลกที่อารมณ์ของหญิงสาวจะแย่ลงกว่าที่เป็นอยู่
... เฮ้อ รู้อย่างนี้ไปฉลองสอบเสร็จกับพวกเพื่อนๆ ดีกว่า ไม่น่ามานั่งเซ็งเฝ้าห้องอยู่คนเดียวเลย...
ร่างบางคิดพลางถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อหัวค่ำที่ผ่านมา ซึ่งเพื่อนๆ ของเธอวางแผนกันไปฉลองสอบเสร็จด้วยการกลายร่างเป็นผีเสื้อราตรีชั่วคราว โซยอนจึงบอกปัดไป เพราะเธอเป็นพวกประเภทไม่ชอบสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน มันน่าอึดอัดเป็นที่สุด และอีกอย่าง โซยอนไม่เคยแตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย หากไปก็คงไม่สนุก แต่ถ้ารู้ว่าอยู่คนเดียวแล้วมันน่าเบื่อแบบนี้ สู้เธอไปนั่งดูเพื่อนๆ เมายังจะดีซะกว่า แต่มาคิดได้เอาตอนนี้มันก็คงไม่ทันแล้ว ป่านนี้พวกเพื่อนๆ คงสนุกกันสุดเหวี่ยงไปแล้วล่ะ
"เฮ้อ!!!~ เซ็งชะมัด" หญิงสาวบ่นกับตัวเองเบาๆ ก่อนดีดนิ้วดังเปาะพร้อมฉีกยิ้มกว้างเต็มใบหน้า เมื่อคิดอะไรดีๆออก ....ในเมื่อไม่ได้ไปเมากับเพื่อน ก็ลองเมามันที่นี่เป็นไง....
คิดได้ดังนั้นร่างบางก็หันหลังกลับเข้าห้องดังเดิม แล้วจัดการปิดประตูหลังห้องพร้อมทั้งล็อคกลอนเสร็จสรรพ เธอก้าวไปหยิบกระเป๋าเงินใบเล็ก ก่อนจะพาร่างของตนเดินออกไปจากห้องโดยที่ใบหน้าหวานยังคงเปื้อนยิ้มจางๆ
"เอ อยู่มั้ยนะ" โซยอนยืนด้อมๆ มองๆ อยู่หน้าประตูห้องฝั่งตรงข้ามอยู่ครู่หนึ่งเพื่อสังเกตการณ์...อืม ไฟเปิด แสดงว่าอยู่... เธอคิดในใจก่อนจะเดินตรงไปยังลิฟท์เพื่อซื้อของที่ต้องการ
.
.
.
ไม่ นานนัก โซยอนก็เดินกลับมาพร้อมทั้งขวดโซจูสามสี่ขวดพร้อมกับแกล้มในถุงหิ้วที่ถืออยู่ อาจจะเกิดจากความกลัดกลุ้มเรื่องการสอบที่ผ่านมา ทำให้หญิงสาวหาทางออกด้วยวิธีที่ไม่เคยอยู่ในความคิดของเธอมาก่อน
จังหวะการก้าวฝีเท้าที่เคยดังสม่ำเสมอมาหยุดอยู่หน้าบานประตูห้องฝั่งตรงข้ามห้องพักของโซยอน ร่างบางยืนทำหน้าครุ่นคิดลังเลว่าจะเรียกคนที่อยู่เจ้าของห้องดีหรือไม่ ... น้องเค้าเป็นเด็กเรียนซะขนาดนั้น แถมยังเรียบร้อยอีกต่างหาก จะชวนดีมั้ยนะ แล้วถ้าเค้าปฏิเสธล่ะ ...
..แต่ถ้าเค้าตกลงจะไม่เป็นการชวนน้องเสียเด็กเหรอเรา เฮ้อ...แต่ ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้ว แค่นี้คงไม่เมาหรอกมั้ง
.. ตกลงกับตัวเองเสร็จสรรพมือข้างที่ว่างก็ถูกเจ้าตัวยกขึ้นเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ไม่ กี่อึดใจใบหน้าใสภายใต้กรอบผมซอยสั้นของสาวรุ่นน้องก็โผล่ออกมาจากหลังประตูห้องพัก ดูสีหน้าแล้วเธอคงจะประหลาดใจไม่น้อยที่เห็นพี่สาวห้องตรงข้าม มาเคาะประตูเรียกเธอเวลาดึกๆแบบนี้ ใบหน้าประหลาดใจปรากฏอยู่เพียงไม่นาน รอยยิ้มยินดีก็ผุดขึ้นมาแทนที่
“พี่โซยอน มีอะไรให้ช่วยเหรอคะ”
โซยอนทำท่าอึกๆ อักๆ พอเจอหน้าอีกฝ่ายเข้าจริงๆ ก็เกิดอาการใบ้กินขึ้นมาเฉยๆ ความเงียบทำให้เจ้าของห้องอึดอัดไม่แพ้กัน ดวงตาดำขลับไล่มองไปจนพบกับถุงหิ้วสองสามใบในมือของสาวรุ่นพี่ ฝ่ายโซยอนเมื่อเห็นนตรงหน้าจ้องมองสิ่งที่เธอถือมา ร่างบางก็ส่งยิ้มแหยๆ ไปให้
“แฮ่ะๆ คือว่า....” คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้นเพื่อเร่งให้อีกฝ่ายต่อให้จบประโยค
“คือ พี่จะชวนอึนจองดื่มอะไรแก้เซ็งหน่อยน่ะ เราสะดวกมั้ย” ร่างบางพูดพลางก้มหน้าก้มตา ท่าทางขัดเขินของคนตรงหน้าทำให้คนอายุอ่อนกว่ากลั้นเสียงหัวเราะจนหน้าดำหน้าแดง แต่เพียงไม่นานเธอก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติได้ทันก่อนที่ร่างบางจะเงยหน้าขึ้นมาจากมามอง
“ งั้นพี่โซยอนเข้ามาก่อนสิคะ” ฮัม อึนจองเอ่ยชวนให้อีกฝ่ายเข้ามาในห้องพร้อมเปิดประตูให้กับรุ่นสาวคนสวย กลับเป็นโซยอนซะอีกที่เป็นฝ่ายแปลกใจกับคำตอบของคนอายุอ่อนกว่า อะไรมันจะง่ายขนาดนั้นเนี่ย... ทว่าหญิงสาวก็ได้แต่เก็บคำถามไว้ในใจ ที่แสดงออกมีเพียงรอยยิ้มแทนคำขอบคุณที่ส่งไปให้คนตัวสูง
.
.
.
“พี่โซยอนนั่งก่อนค่ะ ตามสบายเลยนะคะพี่โซยอนเดี๋ยวฉันไปเอาแก้วมาให้”
โซยอนนั่งลงบนโซฟาหน้าทีวีตามคำเชิญของอึนจอง จัดการถอดแจคเก็ตออกไปวางไว้บนโซฟาอีกตัวข้างๆ กัน เหลือเพียงแค่เสื้อกล้ามสีขาวตัวในที่ร่างบางสวมใส่อยู่
โซยอนกวาดตามองไปรอบห้องอย่างสำรวจตรวจตา เพราะครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ที่มีโอกาสได้เหยียบย่างเข้ามาในห้องของรุ่นน้องผู้มากความสามารถ...ของตกแต่งห้องส่วนใหญ่ดูเรียบง่าย มองแล้วสบายตา ข้าวของทุกชิ้นวางเป็นอย่างระเบียบ เห็นแล้วโซยอนก็นึกอาย เพราะห้องของอึนจองดูสะอาดสะอ้านกว่าห้องเธอเยอะ
มาเห็นสภาพห้องแล้วก็เบาใจ เพราะที่นี่คงจะเป็นที่ๆ ปลอดภัยที่สุดสำหรับคนเพิ่งหัดดื่มอย่างโซยอน ตลอดเทอมที่โซยอนรู้จักกับอีกฝ่าย ในสายตาของโซยอนอึนจองก็นับว่าเป็นเด็กที่นิสัยดีไม่น้อย เรียนก็ดี กีฬาก็เด่น แถมดูท่าทางเป็นมิตรกับคนรอบข้าง รอยยิ้มซื่อๆ บนใบหน้าใสที่เธอเคยเห็นอยู่บ่อยครั้งเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้หญิงสาวเลือกที่จะไว้ใจฮัม อึนจอง
“มาแล้วค่ะ” อึนจองก้าวออกมาจากครัวเล็กๆ ของห้องพัก พร้อมกับจานที่มีอาหารอยู่สองใบ ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะตัวเล็กๆ ตรงหน้าโซยอน
“พี่มากวนอึนจองรึเปล่าเนี่ย รู้สึกไม่ดีเลย” โซยอนมีท่าทีเกรงอกเกรงใจเจ้าของห้องอยู่ไม่น้อย จากน้ำเสียงและรอยยิ้มแห้งๆ ที่ส่งมาให้
“ไม่เป็นไร หรอกค่ะ ฉันเองก็สอบเสร็จแล้ว อยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำเหมือนกัน ดีซะอีกที่พี่โซยอนมาอยู่ด้วยจะได้มีเพื่อน..... รอแป๊บนะคะ เดี๋ยวฉันไปเอาแก้วก่อน”
“จ๊ะ”
ครู่เดียว อึนจองก็กลับออกมาจากในครัวอีกครั้งพร้อมแก้วเปล่าสองใบในมือ ร่างสูงนั่งลงข้างๆ แขกผู้มาเยือนยามวิกาลบนโซฟาตัวเดียวกัน มือเรียวเปิดขวดโซจูแล้วรินของเหลวในขวดลงในแก้วทั้งสองใบทำหน้าที่เจ้าของสถานที่ได้อย่างคล่องแคล่ว จนโซยอนเองต้องอ้าปากหวอด้วยกำลังทึ่งกับความเร็วในการเปิดฝาขวด อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามอีกฝ่ายออกไปให้หายข้องใจ
“อีนจอง.. เคยดื่มของพวกนี้ด้วยเหรอ พี่ไม่ยักรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย” อึนจองส่งยิ้มหวานๆ ให้เหมือนทุกครั้ง ก่อนจะส่งแก้วใบเล็กที่มีของเหลวสีใสบรรจุอยู่เต็มแก้วไปให้คนขี้สงสัย
“จริงๆ ก็ไม่ได้ดื่มอะไรมากมายหรอกค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นคนรินให้เพื่อนๆ ซะมากกว่า บอกตามตรงเลยนะคะ ฉันไม่ค่อยถูกโรคกับของพวกนี้เท่าไหร่ วันนี้ฉันขอนั่งเป็นเพื่อนคุยกับพี่โซยอนแล้วกันนะคะ คงดื่มได้ไม่มาก” อึนจองอธิบายพร้อมทั้งออกตัวเรื่องนิสัยการดื่มของตนเสร็จสรรพ
โซยอนนั่งฟังเงียบๆ ไม่ยอมบอกอีกฝ่ายเรื่องที่เธอไม่เคยดื่มเหล้ามาก่อน เพราะถึงยังไง เรื่องนั้นมันก็ไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไรมากมาย แค่ตอนนี้มีคนนั่งเป็นเพื่อนก็นับว่าดีเท่าไหร่ ดีกว่านั่งเซ็งอยู่ในห้องให้ประสาทเสียเล่นๆ
“ไม่เป็นไรหรอก แค่เรายอมนั่งคุยเป็นเพื่อนพี่ก็พอแล้ว.... อึนจอง มา ชนแก้ว” โซยอนพูดพร้อมชูแก้วขึ้นมาตรงหน้า
“เคร้ง” เสียงแก้วกระทบกันเบาๆ ก่อนที่ต่างฝ่ายจะยกมันขึ้นจรดกับริมฝีปากเพื่อลิ้มลองรสชาติของน้ำใสๆ ในแก้ว อึนจองจิบมันเบาๆ พร้อมกับทำหน้าเบ้เล็กน้อย ซึ่งโซยอนที่ยังยกแก้วค้างอยู่ก็มองอาการของอีกฝ่ายด้วยความหวาดกลัวกับรส ชาติที่เธอจะได้ลิ้มลองในไม่ช้า
“แค่ก แค่ก” ด้วยความไม่ระวังและความไม่รู้โซยอนจึงซดมันเข้าไปกว่าครึ่งแก้ว เป็นเหตุให้สำลักในรสชาติเฝื่อนๆ ของโซจูจนน้ำหูน้ำตาไหล
“พี่ โซยอนเป็นอะไรมากรึเปล่าคะ” อึนจองรีบหยิบกระดาษทิชชู่ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเช็ดหน้าเช็ดตาของคน ตรงหน้าอย่างเบามือ พลางถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
“อึนจอง เดี๋ยว แค่กๆ พี่เช็ดเอง” โซยอนยังไม่วายอวดเก่ง มือบางทำท่าจะแย่งกระดาษทิชชู่มาเช็ดซะเอง แต่อึนจองก็เบี่ยงหลบและจัดการเช็ดใบหน้าของร่างบางจนสะอาด
โซยอนถือโอกาสนั้นมองใบหน้าใสของอึนจองอย่างเผลอไผล เห็นไกลๆ ก็ว่าน่ามองแล้ว พอมาเห็นในระยะประชิดเช่นนี้ทำเอาลมหายใจสะดุด หัวใจหรือเต้นผิดจังหวะ เหมือนไม่เป็นตัวของตัวเองเอาเสียเลย
“พี่โซยอนคะ เสร็จแล้วค่ะ” โซยอนถึงกับสะดุ้งสุดตัวเมื่อโดนปลุกให้ตื่นจากภวังค์ ใบหน้าใสขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะความรู้สึกปั่นป่วนที่ก่อตัวขึ้นมาจากภายใน ... อะไรกัน อึนจองเป็นน้องนะนั่น อยู่ๆเกิดความรู้สึกแบบนี้ได้ยังไง... ร่างบางคิดตำหนิตัวเองในใจ
“นี่พี่โซยอนไม่เคยดื่มโซจูมาก่อนเลยใช่มั้ยคะ” อึนจองว่าพลางหรี่ตามองคนตรงหน้าอย่างจับผิด
“เอ่อ กะ ก็ ไม่เคยอ่ะแหละ” โซยอนจำต้องสารภาพความจริงออกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อทุกอย่างมันฟ้อง เธอก็ไม่รู้จะโกหกอีกฝ่ายไปทำไม
“งั้น พี่ก็ไม่ต้องฝืนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวฉันเอาไปเก็บนะ” อึนจองจัดการเก็บโซจูขวดที่เปิดแล้วไว้ในถุงใบเดิม และทำท่าว่าจะแย่งแก้วออกไปจากมือขอบางอีกด้วย แต่โซยอนขืนเอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายแย่งมันไปได้ ร่างสูงจ้องหน้าคนหัวดื้อพร้อมด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพึงพอใจนัก
“พี่จะกินต่อ เอาไว้ที่เดิมเถอะ” อึนจองปล่อยมือแก้วของโซยอนพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่กับท่าทางที่เหมือนเด็กเอาแต่ใจตัวเองของอีกฝ่าย ดูจากสีหน้าแล้วก็พอจะรู้แล้วว่าห้ามไปก็คงไม่ฟัง เธอจึงนั่งมองโซยอนที่ยังฝืนกระดกแก้วโซจูเข้าปากด้วยท่าทางพะอืดพะอม
.
.
.
“พี่ โซยอนกลุ้มอะไรคะ ถึงต้องพึ่งเจ้านี่ด้วย” อึนจองเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบอยู่นานพลางพยักเพยิดไปทางขวดโซจูขวดแรกที่ พร่องลงไปเยอะจนเลยครึ่งขวดไปแล้ว
“ไม่รู้สิ เรื่องสอบมั้ง คงเบื่อด้วยแหละ เลยอยากหาอะไรทำแก้เซ็ง” อึนจองส่ายหน้าเบาๆ กับคำตอบของอีกฝ่าย ก่อนจะยกแก้วโซจูที่แก้วแรกที่ยังไม่หมดขึ้นมาจิบบ้าง พร้อมทั้งสังเกตสีหน้าของคนข้างๆ ที่ขึ้นสีแดงเรื่อตามปริมาณแอลกอฮล์ที่เพิ่มขึ้นในกระแสเลือด
“แล้ว.... อึนจอง เคยมีแฟนมั้ย พี่เห็นมีแต่เพื่อนผู้หญิงที่ไปด้วยกัน เราเองก็ออกจะสวย เพอร์เฟค แต่ไม่เห็นมีหนุ่มคนไหนมาเกาะแกะเลย” คำถามที่ไม่คาดคิดว่าจะหลุดออกมาจากปากของโซยอน สร้างความแปลกใจให้อึนจองไม่น้อย มือเรียวขาวสะอาดวางแก้วเหล้าที่ถืออยู่ในมือลงบนโต๊ะตรงหน้าก่อนจะตอบ
“ไม่เคยมีค่ะ”
“เหรอ ไม่น่าเชื่อ” โซยอนกล่าวสั้นๆ ก่อนจะกระดกโซจูเข้าปาก ปล่อยให้ความเงียบก็เข้าครอบงำทั้งคู่อยู่นาน จนโซจูขวดแรกหมดไปพร้อมกับสติสตังของโซยอนที่เริ่มพร่าเลือน ความสามารถในการควบคุมตัวเองลดน้อยลงทุกขณะ
“พี่โซยอน พอเถอะค่ะ ฉันว่าพี่เมาแล้วนะคะ” อึนจองรั้งมือบางไว้ในขณะที่ร่างบางกำลังจะรินโซจูขวดต่อไปลงในแก้ว ส่งผลให้ดวงตากลมโตเหลือบมองเธอด้วยสายตาขุ่นเคืองเหมือนเด็กที่โดนแย่งของเล่นไปต่อหน้าต่อตา
“ม่าย...ย เมา ช้าน ไม่มาว ปล่อยน้า....” โซยอนกระชากขวดโซจูออกมาจากมือเรียวอย่างแรง จนน้ำใสๆ กระฉอกออกมาจากปากขวดไหลรดลงไปบนเสื้อกล้ามตัวบาง ไม่เว้นแม้แต่ใบหน้ามาจนถึงต้นขาขาวที่รอดโผล่พ้นออกมาจากกางเกงขาสั้นตัวเล็ก แต่ร่างบางก็ไม่ได้ใส่ใจกับมันนัก มัวแต่พะวักพวงอยู่กับขวดโซจูที่อยู่ในมือ กลัวว่าอีกฝ่ายจะมาแย่งมันไปอีก
“พี่โซยอนเลอะหมดเลยเห็นมั้ย เช็ดออกก่อนนะคะ”
“หือ” โซยอนก้มลงมองสภาพของตัวเองช้าๆ ก็พบว่ามันดูไม่ได้เอาเสียเลย เธอจึงป่ายมือสะเปะสะปะไปบนโต๊ะ เพื่อหากระดาษทิชชู่
“เดี๋ยวฉันเช็ดให้ค่ะ พี่โซยอนอยู่เฉยๆ นะ”
“อือ” โซยอนที่จนปัญญาจะหากระดาษทิชชู่เพราะคว้าไปเท่าไหร่ก็เจอแค่อากาศจึงตอบรับน้ำใจของอีกฝ่ายในลำคอเบาๆ เปลือกตาบางปิดลงแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ความรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุนได้เข้าจู่โจมจนร่างกายต่อต้านความปั่นป่วนที่ประสบเอาไว้ไม่ไหวต้องปล่อยตัวตามแรงโน้มถวงของโลก
โซยอนรู้สึกเพียงว่ามีสัมผัสนุ่มๆ จากกระดาษทิชชู่ไล่ซับของเหลวที่หกรดร่างกายของเธอ เริ่มจากมือบางแล้วค่อยๆไต่ขึ้นมาตามลำแขนเรียวเล็ก ก่อนจะได้ยินเสียงบ่นเบาๆ ของเด็กรุ่นน้อง
“ว้า ....หน้าก็เลอะด้วย แถมยังไหลไปถึงคออีก พี่โซยอนไม่น่าแย่งมันไปจากมือฉันเลยนะเนี่ย แย่จริงๆ” ถึงแม้ในหัวจะยังเบลอๆ แต่โซยอนก็ได้ยินและเข้าใจทุกคำพูดของอึนจอง เธอรู้สึกฉุนกึกขึ้นมาทันที เมื่อโดนคนที่อายุน้อยกว่าตำหนิ ทำท่าจะยันกายลุกขึ้นมาตอบโต้อีกฝ่าย
ทว่าความตั้งใจจำต้องหยุดชะงัก เมื่อเธอรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆ เป่ารดใบหน้า ชั่วอึดใจเดียวความร้อนชื้นจากกล้ามเนื้ออุ่นๆ ก็ทิ้งสัมผัสลงมาบนใบหน้าใสตามกันมาติดๆ แม้ความมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์จะทำให้รู้สึกตัวช้าลง แต่ขณะนี้อึนจองทำให้ประสาทสัมผัสของโซยอนตื่นตัวขึ้นมาอย่างไม่อาจต้านทานได้
“อ....อึนจอง ทะ ทำ อะไรน่ะ หยุดนะ” โซยอนตาเบิกโพลงแทบจะสร่างเมาในทันทีเมื่อเห็นว่ารุ่นน้องหน้าใสกำลังทำอะไรกับเธออยู่ มือบางผลักร่างของอีกฝ่ายออกสุดแรง แต่แรงของคนเมาหรือจะสู้คนที่ยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนได้ แถมคนเมายังตัวเล็กกว่า เรี่ยวแรงเท่านี้ไม่สามารถทำให้อึนจองสะเทือนได้เลย
ลิ้นร้อนยังคงไล่เลียทำความสะอาดโซจูที่ร่างบางทำเลอะไว้บนใบหน้าเมื่อครู่ราวกับว่ามันเป็นอาหารอันโอชะ โซยอนพยายามดันร่างของอีกฝ่ายเอาไว้ พลางส่ายหน้าหลบการจู่โจมแต่ก็ทำได้เพียงเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะหลบยังไงก็โดนรุกไล่จนหนีไปไหนไม่ได้ แถมเวลายังโดนอุ้มขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนตักของอึนจอง ทำให้ระยะห่างระหว่างทั้งคู่หมดไปในทันที ท้ายที่สุดจึงทำได้เพียงหลับตาลงเพื่อหลบเร้นจากสายตาเร่าร้อนที่อีกฝ่ายจ้องมองมา...
อึนจองไล้ปลายลิ้นต่ำลงมาเรื่อยๆ จนถึงซอกคอหอมกรุ่น กดจูบเบาๆ จนทั่วลำคอขาว ส่งลิ้นออกมาดูดซับรสของโซจูที่เปรอะเปื้อนจนสิ้นรส เรื่อยมาจนถึงร่องอกขาวๆของร่างบาง โซยอนหอบสะท้านแรงจนอึนจองรู้สึกได้ มือจากเดิมที่มือบางเคยผลักไสกลับเปลี่ยนตำแหน่งเลื่อนมาโอบรอบลำคอของผู้รุกราน ความหอมหวานจากผิวกายทำให้อึนจองใจเต้นตูมตามด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้สัมผัส
“ทำไมวันนี้โซจูมัน หวานขนาดนี้นะ พี่โซยอนว่ามั้ย” อึนจองกระซิบชิดริมฝีปากแดงฉ่ำ พร้อมกันกับที่โซยอนเปิดเปลือกตาขึ้นเพื่อมองหน้าใบหน้าใสของอีกฝ่าย แต่ก็ต้องพบกับสายตาร้อนแรงราวกับจะกลืนกินเธอทั้งตัว แววตาที่โซยอนไม่เคยเห็นจากคนๆ นี้มาก่อน ไม่คิดเลยว่าบุคลิคใสๆซื่อๆ ภายนอกของคนตรงหน้าจะเอาไว้หลอกตาเพื่อล่อให้เหยื่อมาตกหลุมพรางเอง เหมือนกับเธอในตอนนี้
“แล้วตรงนี้จะหวานขนาดไหนกันนะ ชิมล่ะนะคะ” ปลายนิ้วไล้ไปบนเรียวปากสั่นระริกจากความตื่นตระหนก ก่อนจะฉกริมฝีปากของตัวเองพร้อมทั้งส่งปลายลิ้นเข้าไปแย่งชิงความหวานของอีกฝ่าย มือข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมา
กดลงไปบนท้ายทอยของคนบนตัก เพื่อให้จูบนั้นแนบแน่นยิ่งขึ้น ซ้ำยังช่วยป้องกันไม่ให้โซยอนหลีกหนีจากจูบที่เธอกำลังป้อนให้ ร่างบางถูกครอบครองไว้อย่างหนาแน่นจากคนตัวสูง
.
.
.ฉากลับๆ ใครอยากได้ก็ ส่งอีเมลล์มาที่ ham_eunso@hotmail.co.kr ระบุ [one shot - T-ARA]..Drunk..[Eunso] ใครจ้องการอ่านก็ส่งมานะฮับ ^-^~
.
.
.
3 เดือนผ่านไป
โซยอนควานหาหมอนข้างด้วยความเคยชิน เวลาเช้ามืดอย่างนี้ร่างบางไม่อยากลุกออกไปไหน เพราะเป็นเวลาที่กำลังนอนหลับสบาย
“อืม” โซยอนครางเบาๆ ในลำคอเมื่อเจอสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นหมอนข้าง และกอดมันเอาไว้เสียแน่น ...เอ ?หมอนข้างทำไมมันอุ่นๆหว่า..ช่างเถอะนอนต่อดีกว่า...
อึนจองที่โดนโซยอนพลิกตัวมากอดถึงกับตาสว่างขึ้นมาทันที ก็ร่างภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ของทั้งเธอและโซยอนมันมีอะไรติดตัวซะที่ไหน แล้วยังมากอดกันแน่นแบบนี้ แหม..ยั่วกันรึไงคะที่รัก.. คิดแล้วก็ไม่รอช้า มือซนๆ ของเธอก็เริ่มอยู่ไม่สุข มันลูบไล้ร่างกายของอีกฝ่ายภายใต้ผืนผ้าห่ม
..เอ๊ะ หมอนข้างอะไรกระดุกกระดิกได้ด้วย เฮ้!!! เดี๋ยวก่อนสิหมอนข้างที่ไหนมือยังกะปลาหมึกอย่างนี้...คิดได้ดังนั้นร่าง เล็กก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับที่อึนจองประทับริมฝีปากลงไปบนกลีบผากแดงฉ่ำ ส่งลิ้นเข้าไปยื้อแย่งความหวานจากโพรงปากนุ่ม
อึนจองกวาดลิ้นเข้าไป สำรวจทุกซอกทุกมุมในโพรงปากของโซยอน ราวกับคนอดอยากปากแห้งไม่เคยได้จูบมาก่อน จนโซยอนต้องทุบไปบนไหล่บางเพื่อประท้วงขออากาศหายใจ
“แฮ่0กๆ ..อึนจอง หื่นแต่เช้าเชียว เมื่อคืนก็ตั้งหลายรอบ” พูดเองก็หน้าแดงเองเพราะตั้งแต่เธอตอบตกลงเป็นแฟนกับอึนจองหลังจาก เหตุการณ์คืนนั้น นี่ก็ผ่านมาสามเดือนกว่าๆ แล้ว ความหื่นของเด็กหน้าใสนี่มันไม่ยอมลดลงไปแม้แต่น้อย ดีไม่ดีมันจะเพิ่มขึ้นทุกวันๆ บางคืนเธอเองแทบไม่ได้หลับได้นอนเพราะอึนจองไม่ยอมท่าเดียว ...เรื่องแบบนี้ละเชี่ยวนัก พอเราถามบอกไม่เคยมีแฟน หนอย..ไม่มีแฟนเพราะมีแต่คู่นอนล่ะสิ แล้วไอ้พวกเพื่อนผู้หญิงที่เห็นเมื่อก่อนนี่มันก็เพื่อนนอนชัดๆ เฮ้อ คิดแล้วก็เหนื่อยใจชะมัด...
อึนจองส่งยิ้มหวานๆไปให้โซยอน ก่อนจะเอ่ยประโยคเรียกเลือด “ก็พี่โซยอนน่ากินนี่คะ ไม่ต้องเขินแล้วล่ะค่ะ พี่น่าจะชินได้แล้วนะ” โซยอนได้ฟังจบก็ทุบไหล่เข้าให้หนึ่งที โทษฐานที่ชอบทำให้เธอใจสั่นอยู่เรื่อย
“โอ๊ย พี่โซยอนมือหนักชะมัดเลย” อึนจองทำหน้างอพลางลูบไหล่ตัวเองป้อยๆ ก่อนจะลุกออกไปจากเตียงทั้งที่ร่างกายไม่มีเสื้อผ้าติดตัวซักชิ้น ท่าทางเจ้าตัวจะงอนหนัก ...อ้าว แค่นี้งอน งานเข้าแล้วไง แล้วทำไมฉันต้องมาเอาอกเอาใจมันด้วยเนี่ย ชิ... โซยอนคิดในใจอย่างเซ็งๆ แต่ก็ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อจะตามง้ออีกฝ่ายโดยไม่ลืมหอบผ้าห่มปกปิดร่างกาย เอาไว้ด้วย ใครมันจะไปหน้าด้านเหมือนมันกันล่ะ
“อึนจอง ....ไม่เอาน่าเรื่องแค่นี้ทำงอนไปได้ ดีกันนะ” โซยอนไปยืนข้างหน้าอึนจองที่กำลังกอดอกทำหน้ามุ่ยอยู่ ร่างบางทำหน้าตาน่ารักสุดชีวิตเพื่อหวังว่าอีกฝ่ายจะใจอ่อน เธอรู้ดีว่าอึนจองเองก็ไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่ พวกแพ้ลูกอ้อนเหมือนกัน แต่คราวนี้ดูเหมือนมันจะให้ไม่ได้ผล เมื่ออึนจองยังยืนหน้าบูดไม่พูดไม่จา แถมยังทำท่าจะเดินหนีเธออีกต่างหากโซยอนจึงรั้งข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้
“เดี๋ยวสิ งั้นไปอาบน้ำด้วยกันนะ ดีมั้ย” โซยอนงัดไม้ตายออกมาใช้ สำหรับคนแบบอึนจองมันต้อง้ออย่างนี้สินะ และมันก็ได้ผลทันตา เมื่ออึนจองฟังจบก็ฉีกยิ้มกว้างจนแก้มแทบปริ ก่อนจะเดินเข้าดึงผ้าห่มออกจากร่างบางแล้วช้อนร่างของอีกฝ่ายขึ้นมาในอ้อม แขน
“โอเคค่ะพี่โซยอน อาบน้ำกัน คิคิ อาบน้ำๆ” ...น่านร่าเริงขึ้นทันตาเชียวไอ้คุณฮัม ชิ!! น่าหมั่นไส้ที่สุด...โซยอนแอบด่าอึนจองในใจ พลางส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
..... คิคิ พี่โซยอน คิดกับเราอีกแล้ว อย่าหวังเลยค่ะว่าวันนี้พี่จะได้ออกจากห้อง ตีซะแรงต้องเอาคืนซะหน่อย.....
The End
.
.
.
Eunjung’s Part
“วันนี้ฉันอยากอยู่คนเดียวน่ะ พี่ไม่ต้องมาหรอกค่ะ......ค่ะ แค่นี้นะคะ ฝันดีค่ะ” อึนจองกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ ก่อนจะกดวางสายเมื่อสิ้นสุดการสนทนา เธอโยนเครื่องมือสื่อสารลงไปบนเตียงนอนสีหวานอย่างไม่ใยดี วันนี้เธอไม่อยากจะออกไปไหนเลยแม้ว่าจะมีใครหลายคนชวนไปฉลองสอบเสร็จที่โน่น ที่นี่ก็ตาม แต่เธอก็ตอบปฏิเสธไปทุกราย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงไม่อยากออกไปไหน อาจจะเป็นเพราะเห็นไฟในห้องของรุ่นพี่สาวคนสวยห้องตรงข้ามยังเปิดอยู่ บ่งบอกว่าเจ้าตัวก็ไม่ได้ออกไปข้างนอกเช่นกัน อึนจองเลยคิดอยากจะอยู่เป็นเพื่อนอีกฝ่าย แม้จะอยู่กันคนละห้องแต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้รุ่นพี่ตัวเล็กนอนเหงาอยู่คน เดียว เผื่อว่าอีกฝ่ายมีอะไรให้ช่วยจะได้ไม่เคว้ง เพราะอย่างน้อยเธอก็ยังอยู่ทั้งคน
อึนจองกับโซยอนรุ่นพี่ ข้างห้อง ก็รู้จักกันมาตั้งเป็นเทอมแต่ยังไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยซักครั้ง เจอกันก็แค่ทักทายเหมือนคนรู้จักกันปกติ แต่โซยอนคงไม่รู้หรอกว่าอึนจองถูกใจเธอตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรก แอบมองทรวดทรงองเอวของร่างบางก็บ่อย แถมยังคิดเตลิดเปิดเปิงไปเสียไกล อยากจะนอนกอดคนตัวเล็กๆ บางๆ อยู่ทุกค่ำคืน เจอหน้าทีไรก็ต้องข่มใจตัวเองเอาไว้ไม่ให้มันเผลอแสดงอะไรที่ไม่เหมาะสมออก ไป นี่ถ้าโซยอนรู้เข้าว่ารุ่นน้องคนที่เจ้าตัวคิดว่าใสซื่อนักหนาคิดอกุศลกับเธอไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะตกใจแค่ไหน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“หือ” ขณะที่อึนจองนั่งดูทีวีช่องโน้นช่องนี้ไปเรื่อยเปื่อย ก็มีเสียงเคาะประตูห้องของเธอ ร่างสูงจึงลุกไปเปิดประตูต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยียนเธอในยามวิกาล
พอเธอเห็นหน้าคนที่มาเคาะประตูเท่านั้นหละ อึนจองแทบจะกระโดดกอดเสียให้ได้ ...อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นคะพี่โซยอน กำลังคิดถึงอยู่พอดีเลย..
“พี่ โซยอน มีอะไรให้ช่วยเหรอคะ” ....รีบบอกมาเลยค่ะพี่โซยอน ฉันพร้อมเสมอสำหรับพี่ ^ ^~
“แฮ่ะๆ คือว่า....” ..รีบๆ บอกมาเลยค่ะ ไม่ต้องเกรงใจอะไรทั้งนั้น..อึนจองคิดในใจด้วยความลุ้นระทึกดวงตาดำขลับไม่ละไปจากร่างตรงหน้าแม้แต่วินาทีเดียว
“คือ พี่จะชวนอึนจองดื่มอะไรแก้เซ็งหน่อยน่ะ เราสะดวกมั้ย” อึนจองกลั้นขำแทบตายที่โซยอนทำเหมือนเรื่องแค่นี้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไรนักหนา ในขณะเดียวกันเสียงหัวใจของเธอก็เต้นระทึกอย่างลิงโลดด้วยความดีใจ
“ งั้นพี่โซยอนเข้ามาก่อนสิคะ” เด็กสาวพูดพลางเปิดประตูให้กับรุ่นพี่ โดยที่เธอเป็นฝ่ายเดินนำหน้าร่างบางเข้ามาก่อนทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถรับรู้ ได้ถึงสายตาหมายมาดกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าใส ถ้าโซยอนมีโอกาสได้เห็นมันเธอคงเปลี่ยนใจไม่เข้ามาติดกับรุ่นน้องคนหน้าซื่อเป็น แน่
.
.
.
“พี่โซยอนนั่งก่อนค่ะ ตามสบายเลยนะคะพี่โซยอนเดี๋ยวฉันไปเอาแก้วมาให้”
ขณะที่โซยอน จัดการถอดแจคเก็ตออกไปวางไว้บนโซฟาอีกตัวข้างๆ กัน จึงเหลือเพียงแค่เสื้อกล้ามสีขาวตัวในที่ร่างบางสวมใส่อยู่ แต่หากเธอหันมามองอึนจองซักนิดเธอจะได้เห็นว่าสายตาของอีกฝ่ายเวลานี้มันไม่ ใสซื่อเหมือนเคย แววตาแบบนี้เหมือนกับเสือร้ายที่จ้องจะจับกินเหยื่อไม่มีผิด แต่น่าเสียดายที่เธอมัวแต่สนสำรวจสภาพแวดล้อมในห้องมากกว่าเจ้าของของมัน
...นั่นเสื้อข้างในนั่นจะบางไปไหนคะพี่สาว ใส่แบบนี้มาไม่ใส่ดีกว่ามั้ง แล้วร้อนขนาดนั้นเลยเหรอถึงต้องถอดแจ๊คเก๊ตหนะ หรือพี่คิดจะยั่วฉันกันแน่ คนอะไรจะขาวน่ากินขนาดนั้น... อึนจองลอบกลืนน้ำลายลงคอราวกับคนกระหายน้ำ ก่อนจะเดินออกไปจัดการกับถุงข้าวของที่ร่างบางซื้อมา แต่ในหัวยังคงคิดถึงแต่ภาพของร่างบางเมื่อครู่วนไปวนมาไม่ยอมหยุด ...เห็นข้างนอกยังขนาดนี้ แล้วข้างในล่ะจะน่ากินขนาดไหนนะ...
.
..
.
“แค่ก แค่ก”
“พี่โซยอนเป็นอะไรมากรึเปล่าคะ” อึนจองถามด้วยแปลกใจที่เห็นโซยอนสำลักโซจูจนน้ำหูน้ำตาไหล อึนจองจึงรีบหยิบกระดาษทิชชู่ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเช็ดหน้าเช็ดตาของคนตรง หน้าอย่างเบามือ
“อึนจอง เดี๋ยว แค่ก พี่เช็ดเอง” โซยอนทำท่าจะแย่งกระดาษทิชชู่มาเช็ดซะเอง แต่อึนจองก็เบี่ยงหลบและจัดการเช็ดใบหน้าของใสๆ ของร่างบางจนสะอาด ....ไม่ใช่อะไรหรอกก็แค่อยากสัมผัสนิดๆหน่อยๆ เท่านั้นเองค่ะพี่โซยอน แต่ได้มองหน้าพี่ใกล้ๆ แบบนี้ฉันจะอดใจไหวมั้ยล่ะเนี่ย ยังมองหน้าเราตาแป๋วอีก จะทำตัวน่ารักไปถึงไหนคะพี่สาว โอ๊ย ฮัม อึนจองจะบ้าตายเพราะผู้หญิงคนนี้นี่แหละ...
“พี่โซยอนคะ เสร็จแล้วค่ะ”
“นี่พี่โซยอนไม่เคยดื่มโซจูมาก่อนเลยใช่มั้ยคะ”
“เอ่อ กะ ก็ ไม่เคยอ่ะแหละ”
.ว่าแล้วเชียวไปกินกับคนอื่นเดี๋ยวก็เสียสาวหรอกพี่โซยอน -*- (อยู่กับแกคงปลอดภัยตายล่ะ)....
“งั้น พี่ก็ไม่ต้องฝืนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวฉันเอาไปเก็บนะ”
“พี่จะ กินต่อ เอาไว้ที่เดิมเถอะ” ....โอเคจะเอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะพี่โซยอน แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน...
.
.
.
“พี่ โซยอนฉันว่า พอเถอะค่ะ ฉันว่าพี่เมาแล้วนะคะ” ...เดี๋ยวก็เมาไม่รู้เรื่องเราก็อดพอดี -*-....
“ม่าย...ย เมา ช้าน ไม่ มาว ปล่อยน้า....” ...เนี่ยนะไม่เมา พูดยานคางขนาดนี้นะไม่เมา เป็นน้องเป็นนุ่งนะจับตีก้นลายเลย แต่พี่โซยอนไม่ใช่น้องงั้นก็....อ้าววว อะไรเนี่ยหกเลอะเทอะเลย พี่โซยอนนะพี่โซยอน เป็นไงล่ะทีนี้ ...เอ๋ ?? เสื้อยิ่งบางๆ แล้วยังเปียกขนาดนี้อีก พี่โซยอนที่รักคะ อย่าค่ะ อย่าทำหน้าตาแบบนั้น .....ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยย!!! จะกดแล้วนะคะพี่โซยอน.. คิดแล้วอึนจองก็จัดการกับร่างบางตามที่ใจปรารถนา
เหตุการณ์ ครั้งนี้สอนให้โซยอนรู้ว่า ....ที่ที่ปลอดภัยที่สุด คือที่ที่อันตรายที่สุด
The End
ผลงานอื่นๆ ของ Ham_EunSo ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Ham_EunSo
ความคิดเห็น